ไม่ต้องเย็บแผลใบหน้าในวันแรก
แผลบนใบหน้าจากอุบัติเหตุเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหลาย ๆ คน เมื่อมาพบแพทย์ ผู้ป่วยจึงมักมีความคาดหวังสูงเป็นพิเศษ ไม่ว่าแผลจะเล็กหรือใหญ่ คนส่วนใหญ่ย่อมหวังว่ามันจะหายดีจนมองไม่เห็น อยากให้ศัลยแพทย์ตกแต่งมาเย็บให้ ผู้ป่วยจึงมักจะรีบเดินทางมาพบแพทย์ตามโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วหลังเกิดเหตุ ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน
ห้องฉุกเฉินไม่มีศัลยแพทย์ตกแต่ง
ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยกลุ่มนี้จะถูกนำส่งเข้าห้องฉุกเฉิน แต่ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเอกชนอาจจะไม่มีศัลยแพทย์ตกแต่งอยู่เวรรอผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนกลางคืน ผู้ป่วยอาจจะไม่ทราบว่า ตัวผู้ป่วยเองจะต้องเป็นฝ่ายระบุว่าต้องการศัลยแพทย์ตกแต่ง ทางโรงพยาบาลจึงจะโทรตามหามาให้ แต่ความจริงที่ต้องยอมรับคือ อาจจะตามไม่ได้ เช่น ไม่มีศัลยแพทย์ตกแต่งยินดีที่จะออกจากบ้านมาเย็บแผลให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนดึกดื่น ตี 2 ตี 3 หรือถ้าตามได้ ค่าตอบแทนแพทย์ที่จะมาเย็บแผลแบบฉุกเฉินก็จะสูงกว่าปกติมาก ๆ แต่ท่านไม่ต้องกังวลจนเกินไป เพราะความจริงแล้ว แผลพวกนี้ไม่จำเป็นต้องเย็บปิดในทันทีก็ได้
การเย็บแผลเป็นเรื่องที่รอได้
หลาย ๆ คนคงไม่รู้ว่า แผลบนใบหน้าไม่ต้องเย็บปิดในทันที แน่นอนว่าการเย็บปิดแผลจะเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปในแผลเพิ่มขึ้น แต่นั่นก็ยังไม่ได้หมายความว่ามันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เราควรใช้พิจารณาเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเย็บปิดแผล เมื่อผู้ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล พอทำการหยุดเลือดจากแผลได้ เช็ดหน้าเช็ดตาเรียบร้อย และประเมินอย่างละเอียดแล้วว่าไม่มีปัญหาของอวัยวะต่าง ๆ บนใบหน้าหรือเหตุอื่นที่ต้องรีบเย็บปิดแผล เช่น กระดูกโผล่ เปิดลึกถึงหลอดเลือดใหญ่ ผู้ป่วยมีโอกาสที่จะตัดสินใจได้ว่าจะให้ทางโรงพยาบาลตามศัลยแพทย์ตกแต่งมาเย็บเพื่อความสวยงามของแผลเป็นหรือไม่ หรือให้แพท์เวรซึ่งอาจจะเป็นแพทย์ทั่วไป (general practitioner) หรือศัลยแพทย์ทั่วไป (general surgeon) มาเย็บแผลให้ ถ้าผู้ป่วยเลือกที่จะให้ศัลยแพทย์ตกแต่งมาเย็บแผลให้ แต่ตามไม่ได้ในทันที ผู้ป่วยก็ไม่ควรร้อนใจไป เพราะความจริงแล้วการเย็บแผลในทันทีที่มาถึงโรงพยาบาลหรือรอไปอีก 4-5 วัน ก็ได้ผลลัพท์ในแง่แผลเป็นไม่แตกต่างกันถ้าทำโดยแพทย์ที่มีฝีมือ
ความจริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องรีบเย็บปิดแผลบนใบหน้าในทันทีก็ได้ ตั้งแต่ตอนผู้เขียนเป็นนิสิตแพทย์ ก็ได้เรียนรู้เรื่องนี้แล้วจากความเจ็บป่วย 2 กรณี กรณีแรกคือ แผลสุนัขกัดและแผลคนกัด เราถูกสอนมาโดยตลอดว่า ปากสุนัขและปากคนสกปรกมาก การเย็บปิดแผลโดยทันทีมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการติดเชื้อ สาเหตุเพราะมีเชื้อโรคตกค้างอยู่ในแผลเป็นจำนวนมากเกินกว่าภูมิต้านทานและยาปฏิชีวนะจะสู้ไหว คำแนะนำคือให้รอและนัดผู้ป่วยกลับมาทำแผลทุกวัน ดูแผลไป 4-5 วัน ค่อยเย็บปิดถ้าแผลดูดีไม่มีลักษณะติดเชื้อ อีกกรณีหนึ่งคือ แผลผ่าตัดไส้ติ่งแตก คือมีไส้ติ่งอักเสบมากจนตัวไส้ติ่งแตก มีหนองมีสิ่งที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ปนเปื้อนในช่องท้องและแผลผ่าตัด เหตุผลเดียวกันคือหากเย็บปิดแผลผ่าตัดเลย มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดแผลติดเชื้อ กรณีนี้ผู้ป่วยยังกลับบ้านไม่ได้ในวันรุ่งขึ้นไม่ได้แน่เพราะไส้ติ่งแตกนี่อาการก็หนักอยู่ เราก็จะตรวจดูแผลทำความสะอาดแผลทุกวันไปอีก 4-5 วันเช่นกัน ถ้าแผลไม่ติดเชื้อค่อยเย็บปิด กลับมาพิจารณาแผลบนใบหน้าที่ไม่ได้เกิดจากสุนัขหรือคนกัด เฉพาะสองตัวอย่างที่ยกมานี้ น่าจะทำให้พอมองออกว่า ทำไมเราจะรอไว้ก่อนไม่เย็บปิดแผลในทันทีไม่ได้
การเย็บปิดแผลในทันทีอาจจะไม่ได้มีแต่ข้อดี
แน่นอนว่าการเย็บปิดทันทีในวันที่ผู้ป่วยมาห้องฉุกเฉินปิดโอกาสที่เชื้อโรคภายนอกร่างกายจะเข้าแผล ผู้ป่วยสบายใจ งานจบและแค่รอมาตัดไหม แต่ข้อเสียคือ หากผู้ที่เย็บแผลไม่มีฝีมือดีดังเช่นศัลยแพทย์ตกแต่ง แผลเป็นที่ได้ก็จะไม่เป็นที่น่าพอใจได้ ยิ่งถ้าผู้ป่วยเป็นเด็ก เด็กที่อายุไม่ถึง 10 ขวบ มักจะไม่ร่วมมือ เอาแต่ร้องไห้งอแงเพราะกลัว ดิ้นไปดิ้นมาจนต้องใช้คน 4-5 คนช่วยกันจับรัดจับมัด แต่แผลบนใบหน้าก็ยังขยับไปมาตลอดการเย็บ ไม่มีทางที่ได้จะแผลเป็นสวยงาม ขนาดศัลยแพทย์ตกแต่งเย็บเอง ยังต้องการให้แผลนิ่ง ๆ จึงจะเย็บแบบละเอียดได้ นอกจากนี้ ถ้าผู้เย็บไม่ชำนาญ อาจตัดทำลายเนื้อเยื่อสำคัญหรือวางตำแหน่งเนื้อเยื่อผิดที่จนทำให้เสียรูป การแก้ไขภายหลัง แม้ว่าจะโดยศัลยแพทย์ตกแต่ง ก็ยังเรียกว่ายาก ที่สำคัญ การทำร้ายจิตใจเด็ก (psychological trauma) เป็นเรื่องใหญ่ ในประเทศเจริญแล้วเขาหลีกเลี่ยงไม่ทำกัน ตั้งแต่ปี 2542 ที่ไปเรียนต่างประเทศ ผู้แต่งเห็นแพทย์ที่ต่างประเทศทำหัตถการต่าง ๆ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ กับผู้ป่วยเด็กภายใต้การดมยาสลบเป็นเรื่องปกติ แต่จนถึงปัจจุบันในไทยเรา ผ่านไป 20 กว่าปี ก็ยังเห็นการจับมัดร้องไห้กันจนเสียงแหบแห้งเพื่อทำหัตถการอยู่เช่นเดิม ใครไม่เคยมีประสบการณ์ได้รับบาดแผลทางใจ จะไม่มีวันเข้าใจเรื่องพวกนี้ นอกจากนี้ ความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์สมัยใหม่ก็มีวิธีหลายวิธีในการป้องกันแผลติดเชื้อได้ แม้ว่าแผลจะไม่ได้เย็บปิดในทันที
มีทางเลือกดี ๆ หลายอย่างในการปิดแผลชั่วคราว
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ทำให้เรามีทางเลือกหลายอย่างในการป้องกันไม่ให้แผลที่ไม่ได้ถูกเย็บปิดติดเชื้อ ในที่นี้ขอยกตัวอย่างวิธีการที่ทำได้ เช่น กินยาปฏิชีวนะ เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย บ้านเราก็หาซื้อยาได้ง่าย และถึงแม้แผลจะถูกเย็บ หมอก็สั่งยาปฏิชีวนะให้กินอยู่ดี
การใช้เทปสำหรับผิวหนังแปะยึดดึงให้แผลปิดก็เป็นเรื่องที่ทำได้ มีเทปทางการแพทย์ที่ขายในท้องตลาด มีความเหนียวพอที่จะดึงจะยึดให้แผลปิดได้โดยไม่ต้องเย็บ ในการผ่าตัดทั่ว ๆ ไป ก็มีหมอจำนวนมากเย็บแผลชั้นในแล้วก็นิยมใช้เทปพวกนี้ยึดติดแผลให้สนิทและบอกผู้ป่วยว่า ไม่ต้องมาตัดไหม ใช้เทคนิคพิเศษ
การใช้กาวทางการแพทย์ อันนี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่ทำได้แม้ว่ากาวทางการแพทย์จะหาได้ยากสักหน่อยเพราะไม่ได้มีอยู่ในทุกโรงพยาบาล เช่นเดียวกันในการผ่าตัดอื่น ๆ ในมนุษย์ หมอหลายคนก็ชอบใช้กาวทางการแพทย์ในการปิดแผลและบอกคนไข้ว่า ไม่ต้องมาตัดไหมนะ ใช้เทคนิคพิเศษ
การใช้วัสดุปิดแผลชนิดที่มีธาตุเงิน (silver dressing materials) เรื่องนี้เป็นที่นิยมกันอย่างมากในวงการศัลยกรรมตกแต่ง คือมีวัสดุปิดแผลหลากหลายยี่ห้อมากที่บรรจุธาตุเงินซึ่งยับยั้งเชื้อโรคได้ แถมแผ่นปิดแผลพวกนี้ยังออกแบบมาให้ซับน้ำเหลืองน้ำเลือดได้มากหรือกันน้ำได้ด้วย ใช้ปิดคลุมแผลที่ไม่ได้เย็บไว้ได้หลาย ๆ วันเลยทีเดียว
บทสรุป
เมื่อเรารู้เช่นนี้แล้ว จะคุ้มหรือไม่ หากเราจะรอสักหน่อย วันรุ่งขึ้นก็ได้ ให้ศัลยแพทย์ตกแต่งมาเย็บแผล ไม่ต้องรีบทำที่ห้องฉุกเฉินในทันที